“ไอ้ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล แม้จะได้ แพร์ แมร์เตซัคเกอร์ กัปตันทีมโขกประตูแรกขึ้นนำแต่มาเสียสองประตูในครึ่งหลังให้เจ้าถิ่น “แตนอาละวาด” แซงกลับมาเอาชนะไปได้อย่างเหลือเชื่อ 2-1 ส่งผลให้ วัตฟอร์ด แซงขึ้นไปรั้งท็อปโฟร์ ส่วนลูกทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์รั้งอันดับ 6 ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันเสาร์ที่ 14 ตุลาคม 2560
วัตฟอร์ด 2 – อาร์เซน่อล 1
สนาม :วิคาเรจ โร้ด
วัตฟอร์ดของกุนซือมาร์โก ซิลวายังปราศจากไอแซ็ค ซัคเซสส์ , เซบาสเตียน โพรเดิ้ล และยูเนส กาบูลที่บาดเจ็บ
อย่างไรก็ดี เจ้าบ้านยังมีอังเดร เกรย์จับคู่กับริชาร์ลิสันในแดนหน้า แต่อังเดร คาร์ริลโล่ปีกทีมชาติเปรูที่ยืมมาจากเบนฟิก้านั่งอยู่ข้างสนามหลังผ่านการรับใช้ชาติมาเมื่อช่วงกลางสัปดาห์
ส่วนอาร์เซน่อลซึ่งขาดชโคดราน มุสตาฟี่ที่เดี้ยงมาจากการลงเล่นให้ทีมชาติเยอรมันยังวางใจใช้งานกรานิต ชาก้าต่อหลังจากนัดล่าสุดพวกเขาเฝ้าบ้านคว่ำไบรท์ตันได้ 2-0 เมื่อเดือนก่อน
กระนั้น อเล็กซิส ซานเชซดาวยิงทีมชาติชิลีที่ตกรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกหายไปจากโผร่วมกับอาร่อน แรมซีย์ที่ไม่อาจพาทีมชาติเวลส์เข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกได้ ส่วนเมซุต โอซิลที่หายเจ็บเข่าแล้วนั่งเป็นตัวสำรองโดยมีแดนนี่ เวลเบ็คออกสตาร์ตเป็นตัวจริง
เริ่มเกมไปได้ 8 นาที ริชาร์ลิสันก็เจ็บจากจังหวะกระโดดสูงเตะสกัดบอลแย่งกับอเล็กซ์ อิโวบี้แล้วล้มเสียหลักจนกระดูกนิ้วกลางมือซ้ายงอไม่ได้ ต้องให้แพทย์ลงไปพันผ้าเอาไว้ก่อนเล่นต่อ
และจากนั้นก็เป็นวัตฟอร์ดที่เดินหน้าบดขยี้ทีมปืนโตอย่างหนัก แต่นาทีที่ 29 ทีมเยือนมีโอกาสโต้แล้วโมฮาเหม็ด เอลเนนีย์ได้ลูกจ่ายจากกราบขวาก่อนส่องไกลระยะ 25 หลาเฉี่ยวเสาแรกไปแบบพอได้ลุ้น
อย่างไรก็ดี ท้ายครึ่งแรกเกมกลับมาเป็นของอาร์เซน่อลอย่างเต็มตัว และนาทีที่ 39 ก็มาได้ลูกเตะมุมด้านขวาโดยชาก้าตักไปหน้าประตูให้แพร์ แมร์เตซัคเกอร์กัปตันทีมที่ได้ลงบู๊เป็นตัวจริงหนแรกในซีซั่นสลัดหนีทอม เคลฟเวอร์ลีย์ตัวประกบที่เตี้ยกว่ากันเยอะโขกระยะหกตุงตาข่ายอย่างเด็ดขาดช่วยให้ทีมจากลอนดอนนำ 1-0
หลังมีเฮ เดอะ กันเนอร์สก็บุกต่ออย่างมั่นใจ และนาทีที่ 43 ชาก้าก็ทะลุเข้าเข่นในกรอบเขตโทษด้านซ้ายเต็มข้อ ทว่าเอเรลโญ่ โกเมซเซฟช่วยเจ้าบ้านได้ ครบ 45 นาทีอาร์เซน่อลยังนำหน้า 1-0
ครึ่งหลังแตนอาละวาดบุกเป็นพายุ และถึงนาทีที่ 60 เวลเบ็คก็ล้มเจ็บอีกรอบ และเดินออกไปให้โอซิลลงไปเล่นแทน
ขยับมาอีกสองนาที วัตฟอร์ดเปลี่ยนทรอย ดีนีย์กับอังเดร คาร์ริลโล่ลงเล่นแทนอาเดรียน มาริอัปป้ากับอังเดร เกรย์ แต่พริบตาเดียวโอซิลก็แผลงฤทธิ์ไหลบอลเข้าเขตโทษด้านซ้ายให้อิโวบี้ซัดเหน่งๆ แต่โกเมซปัดได้เยี่ยมอีกหนโดยก่อนหน้านี้คริสติยอง คาเบเซเล่ได้ใบเหลืองจากการทำฟาวล์อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์ด้วย
ทีมเยือนเปลี่ยนตัวสำรองอีกรายในนาทีที่ 68 โดยมีโอลิวิเยร์ ชิรูด์ถูกปล่อยลงเล่นแทนลากาแซ็ตต์ และอีกสองนาทีให้หลังสกอร์น่าจะเปลี่ยนเป็น 2-0 แต่โอซิลที่ได้ลูกจ่ายหลุดเดี่ยวโดยไม่มีใครขวางง้างยิงจาก 16 หลาไปให้โกเมซเซฟได้
และในที่สุด นาทีที่ 71 แฟนแตนก็ได้ไชโยเมื่อริชาร์ลิสันกระชากบอลเข้าเขตโทษด้ายซ้ายแล้วล้มลงในจังหวะถูกเอ็คตอร์ เบเยรินวิ่งตามประกบตีคู่ไปเฉยๆ แต่ผู้ตัดสินชี้เป็นลูกโทษก่อนที่ดีนีย์จะสังหารไม่พลาดช่วยให้วัตฟอร์ดตีเสมอเป็น 1-1
เข้าสู่ช่วงสิบนาทีสุดท้าย เจ้าถิ่นใช้งานเอเตียง กาปูแทนโรแบร์โต้ เปเรยร่า และน่าจะได้สามแต้มในนาทีที่ 83 เมื่อริชาร์ลิสันเลื้อยเข้าเขตโทษด้านซ้ายแล้วตบคืนให้กาปูตวัดไปหน้าเขตโทษ แต่แมร์เตซัคเกอร์โขกสกัดส่งบอลเปลี่ยนทิศไปชนเสาสองอย่างน่าใจหายใจคว่ำ
พอเห็นท่าไม่ดี อาร์เซน่อลจึงเตรียมปล่อยแจ็ค วิลเชียร์ลงไปปั้นเกม แต่เผอิญว่าโลร็องต์ กอสซิแอลนีย์เริ่มช้ำทำให้ร็อบ โฮลดิ้งถูกส่งลงสนามแทนในนาทีที่ 86 โดยกองกลางร่างเล็กต้องกลับไปนั่งในซุ้มตามเดิมแบบเซ็งๆ
กระทั่งช่วงทดเวลานาทีที่สองจากทั้งหมดสี่นาที วัตฟอร์ดซึ่งบุกหนักก็ได้ประตูชัยอย่างสมควรจากจังหวะสับไกชุลมุนสองหนก่อนที่เคลฟเวอร์ลีย์จะเข้าซ้ำ 10 หลาส่งบอลปะทะตาข่ายได้สำเร็จ จบเกมแตนอาละวาดจึงเก็บสามแต้มด้วยการคว่ำทีมปืนใหญ่ 2-1
รายชื่อนักเตะของทั้งสองทีม
วัตฟอร์ด : เอเรลโญ่ โกเมซ , คริสติยอง คาบาเซเล่ , อาเดรียน มาริอัปป้า (อังเดร คาร์ริลโล่ น.62), มิเกล บริตอส , กีโก้ เฟเมเนีย , อับดูลาย ดูกูเร่ , ทอม เคลฟเวอร์ลีย์ , โฮเซ่ โฮเลบาส , โรแบร์โต้ เปเรยร่า (เอเตียง กาปู น.80) , อังเดร เกรย์ (ทรอย ดีนีย์ น.62), ริชาร์ลิสัน
สำรอง : โอเรติส คาร์เนซิส , มอลล่า วากู , ดาริล ยันมาต , เบน วัตสัน
อาร์เซน่อล : ปีเตอร์ เช็ก , โลร็องต์ กอสซิแอลนีย์ , แพร์ แมร์เตซัคเกอร์ (ร็อบ โฮลดิ้ง น.86) , นาโช่ มอนเรอัล , เอ็คตอร์ เบเยริน , โมฮาเหม็ด เอลเนนีย์ , กรานิต ชาก้า , เซอัด โคลาซินัช , อเล็กซ์ อิโวบี้ , แดนนี่ เวลเบ็ค (เมซุต โอซิล น.60) , อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์ (โอลิวิเยร์ ชิรูด์ น.68)
สำรอง ดาวิด ออสปิน่า , ฟรังซิส โกเกอแล็ง , แจ็ค วิลเชียร์ , ธีโอ วัลค็อตต์
ผู้ตัดสิน : นีล สวอร์บริค
