“พี่เสือ” บาเยิร์น มิวนิค ยุคหลังปลด คาร์โล อันเชล็อตติ ยังไม่นิ่ง บุกนำก่อน 2-0 แต่สุดท้าย โดน “หญิงชรา” แฮร์ธ่า เบอร์ลิน ไล่ตามเจ๊า 2-2 เก็บเพียงแต้มเดียว อยู่อันดับ 2 ตามหลัง “จ่าฝูง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 5 คะแนน ในศึกบุนเดสลีกา เยอรมัน เมื่อวันอาทิตย์
“เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค เพิ่งแยกทางกับ คาร์โล อันเชลอตติ หลังแพ้ยับ 0-3 ต่อเปแอสเช ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และเกมนี้เป็น วิลลี่ ซาญอล เข้ามาประเดิมรับงานคุมแทนชั่วคราว โดยสภาพทีมยังหมดสิทธิ์ใช้งานตัวเจ็บอย่าง มานูเอล นอยเออร์ (ผ่าเท้า) และ ฆวน เบร์นาต (เข่า) ส่วนที่เหลือปรับ 4 ตำแหน่งจากแมตช์ล่าสุด ด้วยการกลับมาใช้ เยโรม บัวเต็ง กับ มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ เป็นเซนเตอร์แบ็กคู่กันอีกครั้ง เช่นเดียวกับแนวรุก อาร์เยน ร็อบเบน และ ฟร้องค์ ริเบรี่ สตาร์ตตัวจริง พร้อมด้วย โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่ยืนเป็นหน้าเป้า
ด้าน “หญิงชรา” แฮร์ธ่า เบอร์ลิน ของกุนซือ พาล ดาร์ได เรียก รูเน่ ยาร์ชไตน์, วลาดิเมียร์ ดาริด้า และ เกงกิ ฮารากูจิ กลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง โดยมี ซาโลมง กาลู ยืนเป็นหอกเดี่ยวแทน เวดัด อิบิเซวิช กองหน้าตัวเก่งที่ติดโทษแบน
เริ่มการแข่งขันทีมเยือนจากแคว้นบาวาเรียบุกทักทายก่อนและสร้างความหวาดเสียวทันที เมื่อ ฮุมเมิ่ลส์ ดันสูงขึ้นไปโขกเต็มหัว แต่บอลถากเสาออกไป
มาถึงนาทีที่ 10 เสือใต้ เบิกสกอร์ขึ้นนำ 1-0 จากลูกเปิดทางขวาของ บัวเต็ง หยอดเข้าเขตโทษให้ ฮุมเมิ่ลส์ โหม่งสะบัดบริเวณจุดโทษเสียบเสาไกลหมดจด
8 นาทีต่อมา แฟนบอลเจ้าถิ่นเฮเก้อ เมื่อ ฆาบี มาร์ตีเนซ ทำฟาวล์ ดาริก้า ผู้ตัดสิน ฮาร์ม ออสเมอร์ส เป่าเป็นจุดโทษ แต่หลังจากปรึกษากับทีมงาน VAR (Video Assistant Referee) จึงมีการเปลี่ยนแปลงคำตัดสิน และปล่อยให้เกมดำเนินต่อไป
ผ่านครึ่งชั่วโมงของเกมมา แฮร์ธ่า พลาดโอกาสได้จุดโทษอีกครั้ง จากจังหวะที่ กาลู โดนสกัดล้มในกรอบ 18 หลา แต่เชิ้ตดำ ออสเมอร์ส ยังเฉย และมีลุ้นสกอร์หนแรก จากลูกยิงของ ดาริด้า ที่ติดเซฟของ สเวน อูลไรช์ มือกาวบาเยิร์น
จากนั้นทีมเยือนสร้างความหวาดเสียวต่อเนื่อง ไล่ตั้งแต่ลูกยิงของ เลวานดอฟสกี้ ที่โดน นิคลาส ชตาร์ค สกัดทิ้งจากเส้นประตูหวุดหวิด ต่อด้วยการประสานงานทางซ้ายระหว่าง ริเบรี่ กับ ดาวิด อลาบา ก่อนดาวเตะเฟร้นช์แมนจะตะบันให้ รูเน่ ยาร์ชไตน์ โชว์ซูเปอร์เซฟไปได้หวุดหวิด จบครึ่งแรก บาเยิร์น ออกนำ 1-0
กลับมาเล่นครึ่งหลัง 4 นาที เสือใต้ ทิ้งห่าง 2-0 เมื่อ โตลิสโซ่ จ่ายให้ เลวานดอฟสกี้ โหม่งแย่งบอลกับกองหลังเจ้าถิ่น และวิ่งเข้ายิงด้วยซ้ายเสียบตาข่าย
แต่ 2 นาทีถัดมา หญิงชรา ตีไข่แตก ได้สำเร็จ เมื่อ เกงกิ ฮารากูจิ ดาวเตะญี่ปุ่นพาบอลทะลุทางขวาของเขตโทษ และเปิดเรียดมาเสาไกลให้ ออนเดรย์ ดูด้า ชาร์จเผาขนไม่เหลือซากไล่มาเป็น 1-2
มาถึงนาที 56 สกอร์มาเท่ากัน 2-2 จากจังหวะฟรีคิกทางซ้ายบอลลอยหาเขตโทษ คาริม เรกิก จับบอลมาเข้าทาง กาลู วิ่งแซง และซัดด้วยซ้ายผ่านตัว อูลไรช์ จมก้นตาข่าย
จากนั้น ซาญอล พยายามแก้เกมด้วยการส่ง ติอาโก้ อัลกานตาร่า กับ คิงสลี่ย์ โกมัน มาแทน ร็อบเบน และ ริเบรี่ แต่ไม่สามารถบวกสกอร์เพิ่มได้
โดยนาที 78 เลวานดอฟสกี้ กระทุ้งเต็มแรง แต่บอลถากเสาออกข้างไป
ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีสกอร์เพิ่มเติม จบเกม บาเยิร์น มิวนิค ทำได้แค่เสมอ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน 2-2 แบ่งกันทีมละหนึ่งคะแนน โดย เสือใต้ ขยับมาอยู่อันดับ 2 ตามหลัง “จ่าฝูง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 5 คะแนน เมื่อผ่านไป 7 เกม ส่วน หญิงชรา อยู่ที่ 10
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แฮร์ธ่า เบอร์ลิน : รูเน่ ยาร์ชไตน์, มิทเชลล์ ไวเซอร์, นิคลาส ชตาร์ค, คาริม เรกิก, มาร์วิน พลัทเท่นฮาร์ดท์, เพอร์ ซิลยาน เชลเบร็ด, วลาดิเมียร์ ดาริด้า, แม็ทธิว เล็คกี้, ออนเดรย์ ดูด้า, เกงกิ ฮารากูจิ, ซาโลมง กาลู
บาเยิร์น มิวนิค : สเวน อูลไรช์, โยชัว คิมมิช, เยโรม บัวเต็ง, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์, ดาวิด อลาบา, ฆาบี มาร์ตีเนซ, โกร็องแต็ง โตลิสโซ่, อาร์เยน ร็อบเบน, โธมัส มุลเลอร์, ฟร้องค์ ริเบรี่, โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้