มิลานเฉียบคมบุกถล่มเวียนนา 5-1

รอสโซเนรีบุกเก็บ 3 คะแนนประเดิมยูโรป้าเหนือทีมจากออสเตรียท่วมท้น โดยเกมนี้ได้บรรดาแข้งหน้าใหม่ช่วยกันยิงและทำแอสซิสต์กันพร้อมหน้า

ฟุตบอลยูฟา ยูโรป้า ลีก เกมนัดประเดิมสนามของกลุ่มดี ที่เอิร์นส์ท แฮปเปิล สตาดิโอน เป็นการพบกันระหว่าง ออสเตรีย เวียนนา รับการมาเยือนของ เอซี มิลาน

ธอร์สเทน ฟิงค์ เทรนเนอร์เจ้าถิ่นส่ง ไฮโก้ เวสเตอร์มันน์ อดีตกองหลังฮัมบูร์กปักหลักแผงหลัง โดยมีโดมินิค โฟรค็อป, ทาร์คาน เซอร์เบส และราฟาเอล โฮลเฮาเซอร์ ช่วยกันทำเกมตรงกลาง สนับสนุนลี จิน ฮยุน และคริสตอฟ มอนส์ไชน์ล่าตาข่าย

ทางฝั่งทีมเยือนของวินเซนโช มอลเตลลา จัดลีโอนาร์โด โบนุชชี, อเลสซิโอ โรมันโญลี และคริสเตียน ซาปาต้า ยืนเป็น 3 กองหลัง ขณะที่แผงเกมบุกจัดฮาคาน คัลฮาโนกลู, อันเดร ซิลวา รวมถึงนิโคลา คาลินิช รอล่าตาข่าย

เกมเริ่มได้ 3 นาที โอกาสทักทายก่อนของทีมเยือน คัลฮาโนกลูได้โอกาสซัดเรียดบอลไปติดเซฟฮัดซิคิชล้มตัวปัดได้ทัน

จากนั้นนาทีที่ 7 คัลฮาโนกลูตัดบอลจากแนวรับทีมเจ้าบ้านได้บริเวณกลางสนาม ก่อนจะได้ลากบอลจี้เข้าเขตโทษ จากนั้นเจ้าตัวจ่ายเข้าในให้คาลินิช และเป็นหอกโครแอตที่คืนให้แข้งเบอร์ 10 ยืนโล่งๆทางด้านซ้าย ก่อนจะตัดสินใจปั่นด้วยขวาตุงตาข่าย มิลานนำไว 1-0

นาทีที่ 10 คัลฮาโนกลูแย่งบอลจากคาดิรีแนวรับเจ้าบ้านได้ ก่อนจะลากบอลด้านขวาเข้าเขตโทษ และเลือกไหลต่อให้อันเดร ซิลวา หลุดเข้าไปซัดสวนตัวฮาดซิคิซ นายทวารออสเตรีย เวียนนา ส่งรอสโซเนรีขึ้นนำ 2-0

เจ้าถิ่นมีจังหวะโต้น่าลุ้นจากลูกตั้งเตะทางริมเส้นฝั่งขวา เมื่อโฮลเฮาเซอร์ กัปตันทีมเปิดบอลเข้าเขตโทษให้มอนส์ไชน์ได้โอกาสซัดทิศทางลูกพุ่งหากรอบเขตโทษ แต่ดอนนารุมมายังปฏิเสธได้ทัน

นาทีที่ 20 กลับเป็นปีศาจแดงดำขยับห่างไปเป็น 3-0 เมื่อคัลฮาโนกลู ที่กำลังเลี้ยงบอลบริเวณกลางสนาม ตัดสินใจหยอดไปทางขวาให้อันเดร ซิลวาสปีดพาบอลเข้าเขตโทษไปดวลกับผู้รักษาประตู ก่อนจะสังหารเข้าไปไม่เหลือ และกลายเป็นลูกที่สองของเจ้าตัวในเกมนี้

เปิดครึ่งหลังนาทีที่ 47 จากจังหวะลูกเตะมุมฝั่งซ้าย โฮลเฮาเซอร์หยอดเข้าเขตโทษมาถึงบอร์โควิช ตัวสำรองที่ลงมาเล่นเวสเตอร์มันน์ตั้งแต่ครึ่่งหลัง เติมมาโขกเน้นๆผ่านมือดอนนารุมมาตุงตาข่าย ออสเตรีย เวียนนา ไล่มาเป็น 1-3

มิลานยังคงมีจังหวะจบสกอร์ที่เฉียบคม และมีประตูเกิดขึ้นอีกครั้งในนาทีที่ 56 เมื่อเคสซีผ่านบอลไปพื้นที่ว่างให้อันเดร ซิลวาได้โอกาสยิงผ่านมือฮาดซิคิซ ส่งให้ทีมจากอิตาลีหนีเป็น 4-1 และจากประตูดังกล่าว ส่งผลให้เจ้าตัวขึ้นแท่นเป็นผู้เล่นมิลานคนล่าสุด ที่ทำแฮตทริคได้ในฟุตบอลถ้วยยุโรป ต่อจากกาก้าซึ่งเคยทำไว้เมื่อปี 2006 

จากนั้นนาทีที่ 63 เป็นซูโซ ตัวสำรองที่ลงมาแทนคาลินิช ตัดสินใจลองส่องไกลระยะราว 25 หลา บอลพุ่งหนีมือนายด่านเจ้าถิ่นเข้าไปอย่างสวยงาม มิลานนำห่าง 5-1

เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม เอซี มิลานบุกถล่ม ออสเตรีย เวียนนา ยับคาถิ่น 5-1 เก็บ 3 คะแนนแรก ขึ้นรั้งจ่าฝูงของกลุ่มดี หลังจากที่ผลอีกคู่เป็นเออีเค เอเธนส์ ทำได้แค่บุกชนะริเยก้า 2-1